รูเล็ต คิดเงินยังไง อัตราจ่ายเท่าไหร่ บทความนี้มีคำตอบ

รูเล็ต คิดเงินยังไง

รูเล็ต คิดเงินยังไง อัตราจ่ายเท่าไหร่ บทความนี้มีคำตอบ สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน ที่ติดตามบทความ baccarat911th อยู่แล้ว และ ท่านใดที่พึ่งเข้ามาอ่านบทความนี้เป็นบทความแรก สำหรับบทความนี้ ผมจะมาแนะนำเกร็ดความรู้เกี่ยวกับ เกมคาสิโนยอดฮิตอย่างรูเล็ต ว่า รูเล็ต คิดเงินยังไง แต่ละตำแหน่งที่สามารถแทงได้ มีอัตราจ่ายเท่าไหร่ ถ้าอยากรู้แล้ว เลื่อนลงไปดูกันเลย

รูเล็ต (Roulette) เกมคาสิโนสด ยอดนิยม

รูเล็ต เป็นเกมการเดิมพันอย่างหนึ่ง ที่นิยมเป็นอย่างมากเพราะมีวิธีการเล่นที่ง่าย ทำให้ได้รับความนิยมสูง บ้างก็ว่า รูเล็ต เป็นราชาแห่งคาสิโน เพราะคาสิโน ทุกแห่งต้องมีเกมส์รูเล็ตให้เล่น โดยขั้นตอนการเล่นนั้น ผู้เล่นจะพนันทายผลของเกมส์ว่าลูกบอลจะไปหยุดที่หมายเลขใด โดยการแทงก็สามารถแทงได้หลายตำแหน่ง เช่น เต็งตัวเลข หรือ แทงกลุ่มตัวเลข เช่น 1-18 , 19-36 นอกจากนี้ยังมีการแทงค่อม 2, 3, 4, 6 รวมถึงการแทงทายผลเลขคู่ – คี่, สีดำหรือสีแดง

เมื่อเริ่มเกมส์ ผู้เล่นจะต้องทำการแทงตำแหน่งที่ต้องการ เมื่อได้ตำแหน่งที่แทงแล้ว หลังจากนั้น ดีลเลอร์จะทำการหมุนวงล้อรูเล็ต และปล่อยลูกบอลให้วิ่งไปบนวงล้อ เมื่อลูกบอลตกลงในช่องใดช่องหนึ่งก็ถือเป็นการสิ้นสุด ถ้าผู้เล่นทายผลตรงกับช่องที่ลูกบอลตรงก็จะได้รับรางวัล โดยจะมีวิธีคิดเงินรางวัล ตามตำแหน่งวิธีการแทง

รูเล็ต คิดเงินยังไง ?

การเล่นรูเล็ต จะมีวิธีการแทงที่หลากหลาย ประมาณ 10 รูปแบบ โดยแต่ละรูปแบบจะมีอัตราจ่ายเงิน หรือ คิดเงินที่ต่างกันออกไป บางตำแหน่ง ก็จะได้อัตราจ่ายเยอะ บางตำแหน่งก็จะได้อัตราการจ่ายน้อย ขึ้นอยู่กับโอกาสในการถูกรางวัล ว่ามีมากน้อยเพียงใด โดยแต่ละตำแหน่งที่แทงจะมีอัตราจ่ายดังนี้ ส่วนรายละเอียดว่าแต่ละแบบแทงยังไง ผมจะอธิบายเพิ่มเติมในหัวข้อถัดไปครับ

1. แบบเต็งเลข : อัตราจ่าย 35 เท่า

2. แบบสูง – ต่ำ : อัตราจ่าย 1 เท่า

3. แบบดำ – แดง : อัตราจ่าย 1 เท่า

4. แบบคู่ – คี่ : อัตราจ่าย 1 เท่า

5. แบบเต็งโซน : อัตราจ่าย 2 เท่า

6. แบบเต็งแถว : อัตราจ่าย 2 เท่า

7. แบบค่อม 2 หมายเลข : อัตราจ่าย 17 เท่า

8. แบบค่อม 3 หมายเลข : อัตราจ่าย 11 เท่า

9. ค่อม 4 หมายเลข : อัตราจ่าย 8 เท่า

10. ค่อม 6 หมายเลข : อัตราจ่าย 5 เท่า

ตำแหน่งที่แทงของรูเล็ต

การแทงรูเล็ต อย่างที่ทราบว่าแทงได้ 10 แบบ ซึ่งแต่ละแบบจะแทงตามตำแหน่ง ในกรอบสีเหลืองที่แสดงในรูปภาพ ดังนี้

1. แบบเต็งเลข : ตำแหน่งนี้ สามารถแทงได้ที่เลขโดยตรงเลย โดยหมายเลขที่ให้แทง มีตั้งแต่หมายเลข 0 – 36 ในกรอบสีเหลือง เราสามารถแทงกี่เลขก็ได้ ไม่ได้จำกัด

2. แบบสูง – ต่ำ : โดยตำแหน่งนี้ จะแยกแทงได้ 2 แบบด้วยกัน คือ สูง – ต่ำ โดยต่ำจะมีหมายเลขตั้งแต่ 1 – 18 และ สูงจะมีหมายเลขตั้งแต่ 19 – 36 โดยจะไม่นับหมายเลข 0

3. แบบดำ – แดง : โดยตำแหน่งนี้ จะเหมือนกันกับตำแหน่งสูง-ต่ำ แต่ที่จะเปลี่ยนเป็นสีแทน โดยแต่ละหมายเลขจะมีสีกำกับอยู่ โดยจะมีเพียงแค่ 2 สีเท่านั้น คือ ดำ-แดง

4. แบบคู่ – คี่ : โดยจะเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าตัวเลขแต่ละตัว จะแบ่งแยกเป็นจำนวนเลขคู่ (เลขที่หารด้วย 2 ลงตัว) กับเลขคี่ (เลขที่หารด้วย 2 แล้วไม่ลงตัว) ทางรูเล็ตก็นำมาให้แทงว่าเลขจะออกผลเป็นเลขคู่ หรือ เลขคี่

5. แบบเต็งโซน : จะมีอยู่ด้วยกัน 3 โซน โดยแต่ละโซนจะแบ่งตัวเลขออกเป็นโซนละ 12 หมายเลข ดังนี้ 1st 12 จะมีหมายเลขตั้งแต่ 1 – 12 โซนที่สอง 2nd 12 จะมีหมายเลขตั้งแต่ 13 – 24 โซนที่สาม 3rd  12 จะมีหมายเลขตั้งแต่ 25 – 36

6. แบบเต็งแถว : จะแบ่งออกเป็น 3 แถว แต่ละแถวจะมีหมายเลขอยู่ 12 หมายเลขด้วยกัน โดยจะมีแถวดังนี้ แถวหนึ่ง 1st จะมีหมายเลข 1-4-7-10-13-16-19-22-25-28-31-34 แถวสอง 2nd จะมีหมายเลข 2-5-8-11-14-17-20-23-26-29-32-35 และแถวสาม 3rd จะมีหมายเลข 3-6-9-12-15-18-21-24-27-30-33-36

7. แบบค่อม 2 หมายเลข : โดยตำแหน่งนี้จะเป็นตำแหน่งที่แทง 2 หมายเลขที่อยู่ติดกัน หรือ ข้างๆ กัน เช่น แทงหมายเลข 5 – 6

8. แบบค่อม 3 หมายเลข : โดยตำแหน่งนี้จะเป็นตำแหน่งที่แทง 3 หมายเลข โดยจะแทงในรูปแบบแถวตรง 1 แถว เช่น แทงหมายเลข 7 – 8 – 9

9. แบบค่อม 4 หมายเลข : การแทงรูเล็ตแบบ 4 หมายเลข โดยสามารถแทงค่อมได้ทุกหมายเลขที่อยู่ติดกัน เช่น แทงหมายเลข 8 – 9 – 11 – 12

10. แบบค่อม 6 หมายเลข : โดยตำแหน่งนี้จะแทงคล้ายๆ กับแบบค่อม 3 หมายเลข แต่จะเป็นการแทง 2 แถวแนวตั้งพร้อมกัน เช่น แทงหมายเลข 7 – 8 – 9 – 10 – 11 – 12

ทิ้งท้าย

สำหรับ รูเล็ต คิดเงินยังไง ตอนนี้ทุกท่านคงรู้แล้วนะครับว่า แต่ละตำแหน่งที่แทงลงไปนั้น มีอัตราการจ่ายยังไง และ มีวิธีการแทงรูเล็ตแต่ละตำแหน่งยังไงบ้าง โดยแต่ละตำแหน่งก็จะมีอัตราจ่ายต่างกันออกไป โดยจะมีทั้งหมด 10 ตำแหน่งด้วยกันนั่นเองครับ